เมืองมัลลิกา
- Art Acs
- May 1, 2013
- 1 min read



ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น ประมาณว่าไทยมีทาสเป็นจำนวนกว่าหนึ่งในสามของพลเมืองของประเทศ เพราะเหตุว่าพ่อแม่เป็นทาสแล้ว ลูกที่เกิดจากพ่อแม่ที่เป็นทาสก็ตกเป็นทาสอีกต่อ ๆ กันเรื่อยไป ทาสนั้นจะต้องหาเงินมาไถ่ตัวเอง มิฉะนั้นแล้วก็จะต้องเป็นทาสไปตลอดชีวิต เพราะตามกฎหมายถือว่ายังมีค่าตัวอยู่ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกาศ "พระราชบัญญัติพิกัดเกษียณลูกทาสลูกไทย" เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๑๗ แก้พิกัดค่าตัวทาสใหม่ โดยให้ลดค่าตัวทาสลงตั้งแต่อายุ ๘ ขวบ จนกระทั่งหมดค่าตัวเมื่ออายุได้ ๒๐ ปี เมื่ออายุได้ ๒๑ ปี ผู้นั้นก็จะเป็นอิสระ มีผลกับทาสที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๑๑ เป็นต้นมา และห้ามมิให้มีการซื้อขายบุคคลที่มีอายุมากกว่า ๒๐ ปีเป็นทาสอีก เมื่อถึง พ.ศ. ๒๔๘๘ ก็ทรงออก "พระราชบัญญัติเลิกทาส ร.ศ. ๑๒๔" ให้ลูกทาสทุกคนเป็นไทเมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๘ ส่วนทาสประเภทอื่นที่มิใช่ทาสในเรือนเบี้ย ทรงให้ลดค่าตัวเดือนละ ๔ บาท นับตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๔๘ เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีบทบัญญัติป้องกันมิให้คนที่เป็นไทแล้วกลับไปเป็นทาสอีก และเมื่อทาสจะเปลี่ยนเจ้าเงินใหม่ ห้ามมิให้ขึ้นค่าตัว นับแต่นั้นมาคนไทยจึงเริ่มมีความสุข เริ่มมีการทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง ไม่ต้องรอการเลี้ยงดูจากนายเงิน ซึ่งก็ยังมีบางส่วนที่ยังยึดติดกับนายเงินอยู่ เนื่องจากมีความสุขสบายที่ไม่ต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง ดังนั้นในยุคสมัยดังกล่าวจึงมีวัฒนธรรมที่เริ่มเปลี่ยนไป คนที่มีความคิดริเริ่มใหม่ๆ ได้แสดงความคิด แสดงออก ถึงความต้องการของตนเอง ไม่ต้องทำตามคำสั่งของนายเงิน ประจวบกับมีวัฒนธรรมตะวันตกเริ่มไหลเข้ามาจากการที่คนไทยที่มาฐานะส่งลูกหลานไปเรียนต่างประเทศ และการคมนาคม ที่สะดวกขึ้น ทำให้มีต่างชาติเข้ามาติดต่อค้าขายกับเมืองสยามมากขึ้น ทำให้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตมาโดยตลอดจวบจนปัจจุบัน ทำให้วัฒนธรรมของสยามที่มีมาแต่เดิมเริ่มเลือนหายไปจากความทรงจำของคนสยามในยุคปัจจุบัน เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ จึงถือกำเนิดขั้นมาเพื่อย้อนรอยอดีตแห่งความทรงจำของสยามประเทศ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ของความเป็นสยาม มีความวิจิตรบรรจง มีความสงบร่มเย็น ภายใต้พระบรมโพธิสมภารแห่ง สมเด็จพระปิยมหาราช แห่งสยามประเทศ ที่ทรง คุณูประการกับบรรพบุรุษของชาวสยามในยุคปัจจุบัน Good Luck!
Comentários